บริการที่ใส่ใจ มอบให้ทุกการแบ่งปัน

“ขอบคุณที่ร่วมแบ่งปันค่ะ/ ครับ” ประโยคคุ้นชินที่นักปันจะได้ยินเสมอเมื่อเข้ามาใช้บริการร้านปัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์… เสียงตอบรับการแบ่งปันของพนักงานประจำร้านผู้เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของนักเรียนทุนยุวพัฒน์ กล่าวขอบคุณนักปันทุกคนที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือและมอบโอกาสทางการศึกษาผ่านการบริจาคเงินและสิ่งของสภาพดีเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กๆ ที่ขาดโอกาสในมูลนิธิยุวพัฒน์ พวกเขาเหล่านี้คือบุคลากรสำคัญที่จะสร้างความประทับใจและมอบประสบการณ์ที่ดีในการเข้ามาใช้บริการในพื้นที่แห่งการแบ่งปันนี้ 

การบริการคือ “หัวใจสำคัญ” ของร้านปันกัน

เช่นเดียวกับร้านค้าปลีกทั่วไป การบริการที่ดีคือสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่ทุกๆ ร้านถือเป็นกลยุทธ์หลักเพื่อดึงดูดลูกค้าในกลับมาใช้บริการเรื่อยๆ ปันกันก็เช่นกัน การบริการคืออีกหนึ่ง “หัวใจสำคัญ” ของร้านปันกัน ที่มีพนักงานประจำร้านและเจ้าหน้าโลจิสติกส์ผู้เปรียบเสมือนแบรนด์แอมบาสเดอร์ถ่ายทอดเรื่องราวของปันกัน และมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยเมื่อช่วงเดือน สิงหาคมที่ผ่านมา ปันกันได้จัดการฝึกอบรม หลักสูตรการให้บริการสไตล์ปันกันเพื่อปลูกฝังทัศนคติ เรื่องการให้บริการและความรู้ต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการที่นำไปพัฒนางานต่อไป

คุณตุ๊ก กัญธลีวัลย์ ช่วยบุญ ผู้เชี่ยวชาญงานด้านทรัพยากรบุคคล ผู้ที่ร่วมคิดและเป็นวิทยากรใน หลักสูตรการให้บริการสไตล์ปันกันเล่าว่า “สิ่งสำคัญคือเราต้องปรับและปลูกฝังทัศนคติในการมาทำงานที่ปันกัน ให้พวกเขาได้รับรู้ว่าการทำงานที่ร้านปันกันไม่เหมือนที่อื่นอย่างไรงานที่ทำไม่ได้มาขายของแต่กำลังร่วมทำภารกิจส่งน้องเรียนงานที่พวกเขาทำนั้นมีคุณค่าและมีความหมาย เราจะบอกว่าทุกคนคือผู้ที่เชื่อมต่อความดี

หลักสูตรนี้เรามีเนื้อหาการอบรมที่ครบถ้วนที่เกี่ยวข้องกับการบริการที่เป็นหัวใจหลักในหน้าที่ของพวกเขา เรื่องทัศนคติ เรื่องจิตใจ เรื่องบุคคลิกภาพเสื้อผ้าหน้าผม กิริยา มารยาท การวางตัว การแต่งหน้า รวมไปถึงเทคนิคการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า  การปิดการขายให้ได้ การสร้างความเข้าใจกับงานบริการที่ผู้ให้บริการต้องประสบพบเจอ ซึ่งคอร์สอบรมเหล่านี้เรามีกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆ ให้พวกเขาเรียนรู้และสนุก จำลองสถานการณ์ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำอย่างไร ซึ่งนอกจากเราเป็นวิทยากรเองแล้ว ยังได้ความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งบุคคลากรเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยแนะนำเทคนิคที่มีประโยชน์ให้กับเรา เช่น เรื่องเทคนิคการปิดงานขาย การรับมือกับลูกค้า จากคุณอุดม ลีทัพไทย ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กรและธุรการจัดซื้อจากบมจ. พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง,  เทคนิคการสอนแต่งหน้าจากแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ เคเอ็มเอ (KMA) สังกัดบริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงเรื่องของการสร้างแรงบันดาลใจในการรับมือและการแก้ปัญหาเฉพาะโดยคุณดารณี นุชแผน หัวหน้าโครงการ งานสนับสนุน มูลนิธิยุวพัฒน์ 

หลังจากการอบรมเราเองก็ได้รับเสียงตอบรับจากพนักงาน ว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานเพิ่มมากขึ้น นอกจากที่พวกเขาทำงานได้รับเงินเดือนแล้ว พวกเขายังได้ทำงานเพื่อตอบแทนสังคมอย่างเต็มเวลาอีกด้วย” 

คุณฐาปนีย์ สินาดโยธารักษ์  ผู้อำนวยการร้านปันกัน โดย มูลนิธิยุวพัฒน์  เล่าถึงการหลักสูตรการอบรมครั้งนี้ว่า “…ปันกันคือแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนในสังคม เราอยากสร้างสังคมที่ดี อยากสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันที่ยั่งยืน คนสำคัญที่จะสร้างการมีส่วนร่วมนี้ก็คือพนักงานหน้าร้านที่ต้องถ่ายทอดเรื่องราวของปันกันให้กับผู้ปันที่เดินเข้ามาในร้านเราบอกพวกเขาเสมอว่าพวกเขาไม่ใช่แค่พนักงานแต่คือผู้เชื่อมต่ออนาคตทางการศึกษาให้กับเด็กๆ …”

---

งานที่ทำอยู่มีคุณค่าและมีความหมายต่อสังคม

คุณแนน สุพัตรา จั่นวิลัย หัวหน้างานร้านปันกัน สาขาโลตัสพระรามหนึ่งและคุณเบียร์ ณรงค์ศักดิ์ เสาทอง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับผู้ชำนาญการร้านปันกัน สาขาโรบินสันสมุทรปราการ สองตัวแทนพนักงานหน้าร้านปันกันที่เข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าว มาเล่าให้เราฟังว่าการให้บริการสไตล์ปันกันนั้นเป็นอย่างไร ในมุมมองของทั้งสองคนบอกว่า “…คือ การทำให้ผู้ปันมีความประทับใจและสามารถทำให้เขานำของกลับมาปันอีกครั้ง เพราะผู้ปันคือคนสำคัญหากไม่มีพวกเขา ร้านปันกันก็ไม่สามารถดำเนินการต่อได้   ในส่วนของผู้ปฏิบัติงานก็จะต้องมีการบริการที่ดี ทำหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ก็ต้องประกอบกันด้วย  เช่นไอเดียการจัดร้านอย่างไรให้น่าสนใจดึงดูดผู้ปันเข้ามาในร้าน  นอกจากนี้การทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานก็สำคัญ เพราะนอกจากเรื่องการแชร์ไอเดียการจัดร้านแล้ว เราต้องช่วยกันแบ่งหน้าที่กันหาข้อมูลของสินค้าแบ่งปันในร้านปันกันที่มีหลากหลายประเภท บางอย่างเราไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้ ไม่เคยเห็นสินค้าแบบนี้เราต้องหาข้อมูลเพื่อเอาไปนำเสนอให้กับผู้ปันที่จะอุดหนุนสินค้าชิ้นนั้นต่อไปได้  

ที่ผ่านมาองค์กรมีการอบรม การสัมมนาที่เป็นประโยชน์ให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับการอบรมครั้งนี้ทำให้เรารู้สึกได้ว่างานที่เรารับผิดชอบอยู่นั้นมีความหมายและมีคุณค่าต่อสังคมเราภูมิใจที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เพราะวันนี้เราไม่ได้รับผิดชอบแค่ตัวเราเองแต่เรารับผิดชอบต่อสังคมด้วยเราคือตัวเชื่อมที่จะทำให้ทุนการศึกษาเพิ่มขึ้นทุกๆปีทำให้เด็กๆได้มีโอกาสที่จะได้เรียนหนังสือต่อไปและทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการแบ่งปันที่ยั่งยืนได้จริง”